หมูแคระ เพื่อนซี้ที่รู้ใจ
หมูแคระ เพื่อนซี้ที่รู้ใจ

ในปัจจุบันแม้ว่าสุนัข แมว จะยังเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจของมนุษย์ แต่เราอาจจะได้เห็นสัตว์ในภาคเกษตร อย่างไก่ เป็ด ห่าน ที่เลี้ยงเพื่อเก็บไข่กลายมาเป็นเพื่อนตัวจิ๋ว 2 ขา และยังมีสัตว์สี่ขาอย่าง หมูแคระ เพื่อนซี้ที่รู้ใจ ที่อัพเกรดมาเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจประจำบ้าน ด้วยสีสันและลวดลายที่เรียกได้ว่า น่ารัก แสนรู้ ไม่ต่างจากน้องหมาน้องแมวเลยทีเดียว
หมูแคระ ที่นิยมเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินในขณะนี้มีหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นหมูแคระฮอลแลนด์หรือหมูแคระญี่ปุ่น แต่ความน่ารักตัวสีชมพูที่เราจะพาไปรู้จักกนนี้คือ หมูแคระพอตเบลลี่ หรือหมูแคระเวียดนาม (Vietnames Pot Belly) ซึ่งถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินมานาน แม้แต่ในถิ่นกำเนิดอย่างประเทศเวียดนามเองก็ไม่นิยมเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร แต่จะยกให้เจ้าหมูแคระชนิดนี้เป็นเพื่อนคู่ใจ เช่นเดียวกับหลายๆ คนที่มองว่า เจ้าตัวสีชมพูลายจุดดำท้องย้อยเกือบลากพื้นตัวนี้ มันน่าเอ็นดูจนต้องเลี้ยงเป็นเพื่อนมากกว่าเลี้ยงไว้เป็นอาหาร

ลักษณะทั่วไปหมูแคระ
หมูพ็อตเบลลีของเวียดนามนั้น เป็นพันธุ์พื้นเมืองแท้ๆ น้ำหนักจะอยู่ประมาณ 30-60 กก. สูง 15 นิ้ว และยาวประมาณ 3 ฟุต (ก็ไม่แคระนะ) แต่ที่ฝรั่งมองว่าเป็นหมูแคระเนื่องจากหมูบ้านเค้าโตเต็มวัยหนักได้ถึง 270-680 กก. เมื่อเทียบกันแล้วเจ้าพ็อตเบลลีเลยกลายเป็นหมูแคระ (miniture) ไปเลย ส่วนเจ้าทีคัพ จะมีขนาดเล็กกว่าและสีสันลายจุดหลากหลายกว่า miniture pig แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหมูพวกนี้จะไม่ใหญ่เสมอไป บางทีตอนเด็กๆตัวเล็กนิดเดียว ถ้าหลุดไซส์อาจโตขึ้นเรื่อยๆจนหนักถึงร้อยกิโลกรัมได้
ลักษณะนิสัยและการดูแลหมูแคระหรือหมูจิ๋ว
หมูขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาดเป็นอันดับ 4 รองจาก คน, ลิง และโลมา รู้จักการทำความสะอาดตัวเอง สามารถฝึกให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทางได้ ถ้าเลี้ยงให้ใกล้ชิดกับคนตั้งแต่เล็กๆจะมีนิสัยขี้อ้อนด้วย สามารถอยู่กับคนได้ไม่ต่างจากสุนัขหรือแมวเลย การเลี้ยงดูก็ต้องมีพื้นที่หรือสนามหญ้าไว้ให้เค้าวิ่งเล่น มีเวลาให้เค้านิดหน่อยก็โอเคแล้ว อาหารการกินก็ไม่ยากขึ้นชื่อว่าเป็นหมูแล้วผัก,ผลไม้ อะไรก็กินได้ทั้งนั้น แต่ควรคุมปริมาณด้วย
วิธีการเลือกหมูแคระพอตเบลลี่
ให้ดูที่จมูกกับก้น อายุหมูแคระที่เหมาะ ควรเริ่มเลี้ยงตั้งแต่ช่วง 1-1.5 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่หมูยังเล็กและสมองอันน้อยนิดของมันจะจำเจ้าของที่เลี้ยงมันได้ เป็นช่วงที่เริ่มกินอาหารเองได้แล้ว วิธีการเลือกลูกหมูมาเลี้ยง หลักๆ ที่ต้องพิจาณาดูเลยคือสีผิวต้องผิวอมชมพู ขนต้องเป็นมันเงาแสดงถึงความสมบูรณ์ในการได้รับสารอาหาร รูก้นต้องเป็นสีชมพูไม่มีอุจาระติดซึ่งแสดงถึงการขับถ่ายที่ดี จมูกมีความชุ่มชื้นของน้ำไม่แห้ง ไม่ควรเลือกตัวที่หายใจมีเสียงดังหรือมีน้ำลายเกิดจากการขาดน้ำ อาการที่แสดงออกก็บ่งบอกถึงสุขภาพ อย่างหมูวิ่งเล่นร่าเริงจะมีสุขภาพที่ดีกว่าหมูที่นอนซึม ไม่กินอาหาร ซึ่งแสดงถึงอาการป่วย

อาหารต้องห้ามที่หมูแคระไม่ควรกินเพราะเสี่ยงอันตราย
ธรรมชาติของหมูคือ กินจุ กินทุกอย่างแบบไม่เลือก ต่อให้กินอิ่มไปแล้ว แต่ถ้ามีอาหารก็จะเล่นจะกินเล่นให้หกเลอะเทอะ การให้อาหารจึงควรระวังอย่าให้อาหารที่มีแก๊สเยอะ ทำให้เกิดท้องอืด ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารที่ให้ด้วยอาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดแก๊ส ทำให้ปวดท้อง หรือกินอาหารที่กากใยสูงแต่ไม่มีน้ำเลยก็จะมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย อาหารของคนก็ไม่ควรให้สัตว์กิน เพราะสัตว์จะติดรสชาติในเรื่องของรสที่ผ่านการปรุง ทั้งเค็ม หวาน มัน ถ้าได้กินปุ๊บเขาจะรู้สึกว่า มันอร่อยกว่าผักบุ้ง อร่อยว่าผลไม้ที่เคยกิน เขาจะไม่สนใจอาหารพวกนั้นไปเลย สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างคือพวกถุงพลาสติกที่เปียกอาหาร หากหมูได้กินพวกนั้นจะแยกไม่ออกว่าอันไหนคือพลาสติกเพราะรสอาหารปรุงที่ติดอยู่ มันจะกินทั้งหมด ซึ่งทำให้เกิดอันตราย
เทคนิคการเลี้ยงหมูแคระพอตเบลลี่
1.ทำความเข้าใจอุปนิสัยของหมูแคระก่อน
2.เข้าใจนิสัยของหมูแคระ
3.การให้อาหาร
4.การอาบน้ำ
5.ให้เวลาปรับตัว
6.ที่นอนของหมูแคระ
ในประเทศไทยบ้านเราตอนนี้ที่มีหมูแคระทั่วไปคือ miniture pig หรือหมูเวียดนาม ราคาทั่วไปตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 10,000-30,000 บาท แต่ถ้าอยากได้ที่ตัวจิ๋วๆจากเมืองนอก ราคาก็ประมาณราวๆหลักแสนขึ้นไปเลยทีเดียว
เห็นเจ้าหมูน้อยหน้าตาน่ารักน่าเลี้ยงขนาดนี้แถมยังยังฉลาดอีก อยากเลี้ยงขึ้นมาเลยใช่ไหม แต่อย่าลืมข้อควรระวังด้วยนะ ศึกษาข้อมูลก่อนซื้อเสมอ เพราะบางที่มีการผสมกับหมูใหญ่ หรือนำลูกของหมูพันธุ์ใหญ่มาหลอกขาย แต่ถึงจะมาจากพ่อแม่พันธุ์ที่แคระจริงๆก็อาจเกิดการหลุดไซส์ได้แทนที่จะได้ หมูแคระ เพื่อนซี้ที่รู้ใจ แบบที่หวังไว้ กลับได้หมูตัวใหญ่มา ถึงเวลานั้นอย่าลืมคิดเผื่อไว้ด้วย ว่าเราจะสามารถดูแลเค้าในระยะยาวได้หรือไม่ เพราะเจ้าหมูน้อยสามารถอยู่กับเราได้นานถึง 18 ปีเลยทีเดียวนะ